พ่อแม่ทุกคนล้วนอยากให้ลูกตัวเองเติบโตมาอย่างชาญฉลาด เป็นคนเก่ง แต่ก็มีผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยที่เลี้ยงลูกยังไม่ถูกทาง ส่งผลให้พัฒนาการด้านต่าง ๆ ของเด็กลดลง
พ่อแม่ทุกคนต่างก็คาดหวังให้ลูกเติบโตมาเป็นคนเก่ง เป็นเด็กฉลาด แต่ยุค 4 G ในทุกวันนี้ทำให้เราเลี้ยงลูกด้วยแทปเล็ต สมาร์ทโฟน โดยหารู้ไม่ว่าอุปกรณ์ที่ยื่นให้ลูกใช้เหล่านี้แหละที่เป็นตัวทำลายสมองส่วนหน้า ทำให้เด็กไม่สนใจที่จะอ่านหนังสือ ไม่ชอบคิด และกลายเป็นเด็กสมาธิสั้นได้
โดยงานวิจัยหลาย ๆ ชิ้นได้เปรียบเทียบระดับไอคิวของเด็กที่ดูโทรทัศน์วันละ 1 ชั่วโมงกับเด็กที่ไม่ดูโทรทัศน์เลย พบว่าเมื่อผ่านไป 1 ปี ระดับพัฒนาการของเด็กที่ดูโทรทัศน์จะต่ำกว่าเด็กที่ไม่ดูอย่างชัดเจน ดังนั้นการที่ส่งเสริมความฉลาดให้ลูกนั้น พ่อแม่ควรให้ความสำคัญกับเจ้าตัวเล็กด้วยการมีเวลาร่วมกับลูกบ่อย ๆ ก่อนลูกอายุ 6 ขวบ ควรได้เรียนรู้ สัมผัสของจริงมากกว่าการสัมผัสจากหน้าจอ
แพทย์แนะ วิธีกระตุ้นสมองและฝึกพัฒนาการ ก่อนลูกเข้าเรียนให้ฉลาดอย่างถูกวิธี
ทั้งนี้ พญ.จันทร์เพ็ญ ชูประภาวรรณ นายกสมาคมนักวิจัยไทยเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ได้แนะนำ วิธีกระตุ้นสมองและฝึกพัฒนาการ ด้านต่าง ๆ ให้กับลูกเล็กก่อนเข้าเรียน ที่พ่อแม่สามารถทำให้ลูกได้ง่าย ๆ
#คุยกับลูกบ่อย ๆ ด้วยความสนุกสนาน
ลูกควรจะได้คุ้นเคยกับเสียงพ่อแม่ให้มากที่สุดเท่าที่จะบ่อยได้ ในขณะที่พาลูกไปเดินเล่น ควรชี้ให้เขาดูสิ่งรอบตัวและอธิบายขยายความว่าที่ลูกเห็น ได้ยิน หรือสัมผัสนั้นคืออะไร พูดคุย หยอกล้อ สร้างความสนุกและเสียงหัวเราะให้กับลูก จะช่วยกระตุ้นสมองลูกมากขึ้น
#ตั้งใจฟังในสิ่งที่ลูกพูด
แม้ในช่วงแรก คุณพ่อคุณแม่อาจจะยังไม่เข้าใจภาษาของเบบี๋ แต่ลูกจะรับรู้ได้ว่าพ่อแม่กำลังสนใจฟังจากการที่ได้สบตากัน เป็นแรงกระตุ้นให้ลูกพยายามพูดและออกเสียงเปล่งคำพูดใหม่ ๆ ออกมา เมื่อลูกพูดได้ เขาจะกลายเป็นเจ้าหนูทำไม อย่าไปเบื่อที่จะตอบคำถามลูกนะคะ เพราะการขยันตอบหรือโต้ตอบกับลูกนั้น จะเป็นการกระตุ้นสมองของเด็กเล็กให้เกิดความคิด เกิดวงจรเรียนรู้แบบถาวรขึ้นได้
#ให้เวลาลูกในการคิดและทำ
เพราะเด็กเล็กไม่ได้มีความไวรวดเร็วเท่ากับผู้ใหญ่ จึงต้องให้เวลาลูกค่อย ๆ คิด โดยไม่ต้องไปเร่งรัดหรือให้ลูกทำอะไรเร็ว ๆ แต่ปล่อยให้เขาได้พยายามทำในสิ่งที่เขาทำได้ด้วยตัวเองนะคะ
#ใช้คำพูดซ้ำ ๆ ง่าย ๆ สั้น ๆ และช้า ๆ
ในสมองลูกยังมีคำจำกัด แต่ลูกจะค่อย ๆ จดจำคำศัพท์ที่พ่อแม่พูดให้เขาฟังบ่อย ๆ ได้มากขึ้น และคุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มใช้เป็นประโยคที่ง่าย สั้น มากขึ้นเมื่อลูกเริ่มคุยโต้ตอบได้ อธิบายให้ลูกทีละเรื่องอย่างเข้าใจจะทำให้ลูกเรียนรู้คำต่าง ๆ ได้รวดเร็ว
#ชื่นชมกับความพยายาม
เราอาจจะไม่ต้องชื่นชมไปกับความสำเร็จทุกครั้งที่ลูกทำได้ นอกจากคำว่า ลูกเก่ง ดีมาก ฯลฯ เราสามารถใช้คำอื่น ๆ มาแทน เช่น แม่รู้ว่าลูกทำได้ ถ้าลูกพยายามขึ้นอีกนิดมันจะมากกว่านี้ เป็นต้น
#เล่านิทาน/อ่านหนังสือกิจประวัตรประจำวันที่ดีต่อสมอง
การอ่านหนังสือกับลูกทุกวัน ได้เล่าเรื่อง อธิบายรูปภาพ สี รูปทรง จำนวน และคำต่าง ๆ ที่ปรากฎอยู่ในหน้าหนังสือ เชื่อมโยงภาพเข้ากับคำ จะช่วยกระตุ้นสมองลูกและสร้างจินตนาการต่าง ๆ ให้กับลูกได้ นอกจากนี้ยังสามารถเสริมพัฒนาการของลูกด้วยการใช้ศิลปะง่าย ๆ ต่อยอดจินตนาการจากหนังสือที่อ่าน เช่น วาดภาพการ์ตูน ปั้นแป้งโดว์
วิธีกระตุ้นสมอง เสริมพัฒนาการให้ลูกฉลาดไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่ไหมค่ะ สำคัญที่ว่าพ่อแม่ต้องให้เวลากับลูกทำกิจกรรมเหล่านี้เป็นประจำ นอกจากนี้การแสดงความรัก การทักทายลูกในตอนเช้า ตื่นมาโอบกอด หอมแก้ม สัมผัสอ่อนโยนที่ลูกได้จากพ่อแม่จะเป็นแรงกระตุ้นวงจรในสมองเด็ก ทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี เติบโตขึ้นอย่างงดงาม และมีความฉลาดทางอารมณ์อันเป็นพื้นฐานที่พ่อแม่สร้างให้ลูกได้นะคะ.
เครดิต : theasianparent